ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


โภชนาการโรคเบาหวาน


โรคเบาหวาน

     เบาหวาน เกิดขึ้นเนื่องจากเบต้าในตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินมาควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอร่วมกับภาวะอื่นบางอย่าง เป็นผลให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาล

กลูโคสเพื่อใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้น เบาหวานที่เกิดในผู้สูงวัยส่วนมากเป็นโรคเบาหวานทางกรรมพันธุ์ อาการที่สำคัญคือ ถ่ายปัสสาวะมากและบ่อย กระหายน้ำ แรกเป็นจะหิว และกินอาหารมากขึ้นแต่น้ำหนักตัวกลับลดลง น้ำตาลที่มีระดับสูงจะกัดกร่อนอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หลอดเลือดแดงจะแข็งตัวทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนมากมายตั้งแต่การติดเชื้อ แผลเรื้อรัง โรคของหลอดเลือดหัวใจอัมพาตจนถึงไตวาย



อาหารกับโรคเบาหวาน

     อาหาร มีความสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงต่ำได้เพราะอาหารที่เรากินเข้าไป เช่น ข้าว แป้ง ขนมปัง จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในร่างกาย ฉะนั้น ถ้าเรากินมากก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ เราจึงต้องกินอาหารให้เหมาะสมเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติมากที่สุด 


ประโยชน์ของการควบคุมอาหาร
  1. ช่วยรักษาระดับน้ำตาล และไขมันในเลือดให้ใกล้เคียงระดับปกติ
  2. ทำให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ควรเป็น
  3. ช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อน
  4. ทำให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืน
ข้อควรปฏิบัติในการควบคุมอาหาร
  1. เลือกรับประทานอาหารโดยคำนึงถึงพลังงานที่ได้ตามประเภทของอาหาร คือ พลังงานจากคาร์โบไฮเดรท (แป้ง) ประมาณ 55 - 60%, พลังงานจากโปรตีน(เนื้อสัตว์) ประมาณ 15 - 20%, พลังงานจากไขมัน ประมาณ 25%
  2. ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ต้องลดปริมาณอาหารลงอาจจะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่เคยได้รับประทาน ห้ามน้ำตาลและของหวานทุกชนิดรวมทั้งอาหารมันๆ และของทอด 
  3. เลือกรับประทานอาหารที่มีใยมาก เช่น ข้าวซ้อมมือ อาหารประเภทผักต่างๆ หรือเม็ดแมงลัก ซึ่งจะช่วยระบายอ่อนๆ 
  4. อย่ารับประทานจุกจิกและไม่ตรงเวลาถ้าพลาดมื้ออาหารไป อาจเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปได้ 
  5. รับประทานอาหารในปริมาณที่สม่ำเสมอ และคงที่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือน้อย เกินไปในบางมื้อจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดควบคุมได้ยาก 
  6. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือโรคร่วมด้วย ไม่ควรรับประทานรสเค็มจัด ควรจะลดอาหารเค็ม 
  7. ผู้ป่วยที่ฉีดอินซูลินที่ออกฤทธิ์ในตอนเช้า เช่น Protaphane หรือ Monotard ฤทธิ์ยาอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมงและออกฤทธิ์สูงสุดใตอนเย็นหรือกลางคืน อาจต้องจัดแบ่งอาหารออกเป็น 4 - 6 มื้อ โดยเพิ่มอาหารว่างตอนบ่ายและมื้อก่อนนอน ควรจัดแบ่งปริมาณให้เหมาะสมไม่ให้บางมื้อมากเกินไป 
  8. ถึงแม้ระดับน้ำตาลในเลือดปกติดีแล้ว ผู้ป่วยก็ต้องควบคุมอาหารตลอดไป และติดตามระดับน้ำตาลเป็นระยะ 
  9. ขอให้ฝึกปฏิบัติจนเป็นนิสัย แล้วท่านจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากในการควบคุมอาหาร    "อาหารเบาหวาน" ไม่ใช่อาหารที่พิเศษพิสดารอะไร ผู้ป่วยเบาหวานก็รับประทานอาหารเหมือนคนธรรมดาทั่วไปเพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในชนิดและปริมาณอาหารเท่านั้น 

อาหารเบาหวาน

  1. อาหารที่ไม่ควรรับประทาน
    • ขนมหวานต่างๆ เช่น ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, กล้วยเชื่อม, วุ้น,    ขนมชั้น
    • ผลไม้รสหวานจัด เช่น เงาะ, ทุเรียน, องุ่น, ขนุน, อ้อย, น้อยหน่า, ละมุด
    • น้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น น้ำตาลทราย, น้ำตาลปิ๊บ, น้ำผึ้ง, น้ำตาลแว่น, น้ำตาลโตนด
    • เครื่องดี่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า, ไวน์, เบียร์
    • ขนมขบเคี้ยวทอดกรอบ และอาหารชุบแป้งทอดต่างๆ เช่น ปาท่องโก๋, กล้วยแขกทอด, ข้าวเม่าทอด
  2. อาหารที่รับประทานได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ ได้แก่ 
    • อาหารพวกแป้ง เช่น ข้าว, เผือก, มัน, ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ, ก๋วยเตี๋ยว, ขนมจีน, บะหมี่, ขนมปัง, มักกะโรนี เป็นต้น 
    • ลดอาหารไขมัน เช่น ขาหมู, ข้าวมันไก่, หมูสามชั้น 
    • อาหารทอดน้ำมันมากๆ ตลอดจนไขมันจากพืชบางอย่าง เช่น กะทิ, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปาล์ม ควรใช้ น้ำมันถั่วเหลืิอง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันเมล็ดฝ้ายแทน 
    • อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น น้ำตาลจากผลไม้ 
    • ผักประเภทหัวที่มีน้ำตาลหรือแป้งมาก เช่น หัวผักกาด, ฟักทอง, หัวหอม, กระเจี๊ยบ, ผักตระกูลถั่ว, หัวปลี เป็นต้น 
    • ผลไม้บางอย่าง เช่น ส้ม, สับปะรด, มะละกอ, ฝรั่ง, กล้วย เป็นต้น 
  3. อาหารที่รับประทานได้ ไม่จำกัดปริมาณ ได้แก่ 
    • ผักทุกชนิด ยกเว้น ผักประเภทที่มีแป้งมาก ได้แก่ ฟักทอง, ถั่วลันเตา, แครอท, สะเดา 
    • อาหารโปรตีน ประเภท
      • เนื้อสัตว์ เช่น ไก่, ปู, ปลา, กุ้ง, เนื้อวัว, หมู 
      • พืช เช่น ถั่ว, เต้าหู้ เป็นต้น 


การควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน

  1. ให้กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ลดปริมาณลง 
  2. กินอาหารทุกมื้อแต่พลังงานในอาหารแต่ละมื้อควรเลือกอาหารที่ให้พลังงานน้อย เช่น ผักต่างๆ และเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน 
  3. ลดปริมาณพลังงานในอาหารลงทีละน้อย กินข้าวหรืออาหารจำพวกแป้งแต่พอควร 
  4. งดอาหารที่มีไขมันมาก ได้แก่ อาหารประเภททอด และอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ เป็นต้น ควรเตรียมอาหารโดยวิธี นึ่ง, ต้ม, ย่าง แทน 
  5. งดอาหารที่มีน้ำตาลมาก 
  6. กินอาหารที่มีพลังงานน้อย เช่น ผักประเภทที่มีกากใยให้มากขึ้น เป็นต้น 
  7. อาหารทุกมื้อควรมีเนื้อสัตว์เพียงพอ 
  8. เมื่อน้ำหนักตัวลดลงในระดับที่ต้องการแล้วต้องสามารถปรับพลังงานให้เหมาะสมที่จะรักษาน้ำหนักที่ต้องการให้คงที่อยู่ได้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น